ในยุคดิจิทัลที่การซื้อขายออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ E-commerce กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หลายธุรกิจจึงหันมาทำเว็บไซต์ E-commerce เพื่อเพิ่มช่องทางการขายสินค้าและบริการ แต่การทำเว็บไซต์ขายของให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความรู้และเทคนิคหลายอย่าง บทความนี้จะพาไปดูว่า ทำเว็บไซต์ E-commerce เริ่มยังไงดีให้ขายดี
ข้อดีของการมีเว็บไซต์ E-commerce
การมีเว็บไซต์ E-commerce ของตัวเองนั้นมีข้อดีมากมาย ได้แก่
- สามารถขายสินค้าได้ 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดสถานที่
- เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- ประหยัดต้นทุนในการเช่าหน้าร้านและจ้างพนักงาน
- สามารถนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นได้หลากหลาย
- สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
เริ่มต้นทำเว็บไซต์ E-commerce อย่างไรดี
- วางแผนให้ดี กำหนดกลุ่มเป้าหมาย สินค้าที่จะขาย ราคา การจัดส่ง การชำระเงิน โปรโมชั่น ฯลฯ ให้ชัดเจน
- เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม มีทั้งเว็บ E-commerce สำเร็จรูป เช่น Shopify, Woocommerce หรือจ้างทำเว็บไซต์เฉพาะ เลือกให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณ
- ออกแบบเว็บไซต์ให้สวยงาม ใช้งานง่าย มีหน้าตาน่าเชื่อถือ โหลดเร็ว รองรับมือถือ เน้น UX/UI ที่ดี
- ใส่ใจรายละเอียดสินค้า ใช้รูปภาพคุณภาพดี บรรยายรายละเอียดครบถ้วน ตั้งราคาที่เหมาะสม
- มีระบบชำระเงินที่หลากหลาย ปลอดภัย และเชื่อถือได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า
- สามารถดูบทความนี้ได้เลยครับ: Payment Gateway เจ้าไหนดี สำหรับรับบัตรเครดิตได้ เว็บไซต์ E-Commerce เปรียบเทียบเลย! (2024)
- อัพเดทเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งสินค้าใหม่ บทความ โปรโมชั่น เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์
- ทำ SEO และการตลาดออนไลน์ ให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ในผลการค้นหา ใช้ Social media, Google Ads ช่วยโปรโมทเว็บ
ทำเว็บไซต์ E-commerce ควบคู่กับขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอื่นๆ
นอกจากทำเว็บไซต์ E-commerce เป็นของตัวเองแล้ว แนะนำให้ขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่าง Shopee, Lazada ควบคู่ไปด้วย เพราะแพลตฟอร์มเหล่านี้มีฐานลูกค้าจำนวนมาก ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้ โดยเราสามารถเชื่อมต่อสต็อกสินค้าระหว่างเว็บไซต์และแพลตฟอร์มต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อให้ Sync สต็อกได้แบบ real-time ไม่ต้องอัพเดทข้อมูลหลายที่ ทำให้การขายสินค้าผ่านหลายช่องทางเป็นเรื่องง่าย การมีทั้งเว็บไซต์เป็นของตัวเองและขายผ่านแพลตฟอร์มชั้นนำ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้ร้านค้า แสดงให้เห็นว่าเราจริงจังกับการขายออนไลน์ ไม่ใช่มือใหม่ ลูกค้าจะรู้สึกอุ่นใจและเชื่อมั่นในการซื้อสินค้ากับเรามากขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
1. ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมหรือไม่ในการทำเว็บไซต์ E-commerce?
ไม่จำเป็น เพราะปัจจุบันมีเว็บ E-commerce สำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมาย ใช้งานง่าย ไม่ต้องเขียนโค้ด หรือจะจ้างบริษัททำเว็บไซต์ดูแลให้ทั้งหมดก็ได้
2. ต้องมีสินค้าของตัวเองหรือไม่ถึงจะทำเว็บ E-commerce ได้?
ไม่จำเป็น เพราะเราสามารถทำธุรกิจแบบ dropship คือไม่ต้องสต็อกสินค้าเอง แต่รับออเดอร์แล้วส่งต่อให้ผู้ผลิตจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าโดยตรง เราได้กำไรจากส่วนต่าง
3. การมีเว็บไซต์ E-commerce ต้องใช้เงินลงทุนสูงไหม?
ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มและวิธีการทำเว็บไซต์ที่เลือก สำหรับมือใหม่อาจเริ่มต้นจากแพลตฟอร์มฟรีหรือราคาถูกก่อน เมื่อธุรกิจเติบโตค่อยย้ายมาใช้ระบบที่ใหญ่และมีฟีเจอร์ครบครันขึ้น ส่วนการจ้างทำเว็บไซต์ราคาก็หลากหลาย ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน ต้องเลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการ
สรุป
การทำเว็บไซต์ E-commerce ให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องมีการวางแผนที่ดี ตั้งแต่การเลือกแพลตฟอร์ม การออกแบบเว็บไซต์ การนำเสนอสินค้า ไปจนถึงการทำการตลาดออนไลน์ นอกจากนี้ ควรขายสินค้าผ่านหลายช่องทาง ทั้งเว็บของตัวเองและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าและสร้างความน่าเชื่อถือ หากต้องการทำเว็บไซต์ขายของแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่าง Make2Web ที่มีบริการรับทำเว็บไซต์ E-commerce ครบวงจร ดูแลตั้งแต่การออกแบบ การอัพเดทเนื้อหา ไปจนถึงการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อสร้างเว็บไซต์ขายของคุณภาพ นำธุรกิจออนไลน์ของคุณไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน