เมื่อไหร่ดี ที่ควร “ปรับปรุงเว็บไซต์” [2024]

ในธุรกิจออนไลน์ เว็บไซต์เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเข้าถึงลูกค้าและกลุ่มเป้าหมาย และแสดงแบรนด์ในโลกออนไลน์ แต่ถ้าหากว่าเว็บไซต์บริษัท เว็บไซต์แบรนด์หรือเว็บไซต์องค์กรที่มีนั้นเก่าแล้ว หรือไม่สามารถใช้งานตามเป้าหมายที่ต้องการได้ ก็อาจเป็นเวลาที่ควรปรับปรุงเว็บไซต์แล้วครับ

ในทุกบริษัท ทุกขนาด มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันครับ นั่นคือ

“เว็บไซต์ไม่มีวันทำเสร็จ”

เพราะโลกหมุนไปครับ ยิ่งดำเนินธุรกิจไปเท่าไหร่ ยิ่งมีข้อมูล ยิ่งพัฒนา ยิ่งเห็นปัญหามากขึ้นเท่านั้น เว็บไซต์ก็เป็นอย่างหนึ่งที่ไม่ควรหยุดนิ่งครับ

ในบทความนี้ ผมจะอธิบายความสำคัญของการปรับปรุงเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์บริษัทหรือเว็บไซต์ขายของออนไลน์ครับ โดยสามารถใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์เอง และจ้างทำเว็บไซต์หรือจ้างปรับปรุงเว็บไซต์นะครับ

ดีไซน์เก่า

หากเว็บไซต์มีดีไซน์ที่เก่า อาจทำให้ผู้ที่เข้าชมมองว่าธุรกิจของคุณหรือแบรนด์ของคุณนั้นไม่ตามยุคสมัย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณยังใช้เว็บไซต์ที่ดีไซน์เมื่อประมาณ 10 ปีก่อนอยู่ อาจมีส่วนของเว็บที่ยังเป็น Adobe Flash (ทันไหมครับ ถ้าทันแสดงว่า อายุไม่น้อยแล้วนะ 😂) หรือยังมีดีไซน์ที่กระจัดกระจายไม่เป็นสัดส่วนอยู่ อาจไม่สามารถนำมาใช้เพื่อเข้าถึงลูกค้าในยุคปัจจุบันได้ การปรับปรุงเว็บไซต์สามารถแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้ เพื่อให้เว็บไซต์ดูทันสมัยและสวยงามยิ่งขึ้น

UX ที่แย่ หรือแปลง่าย ๆ คือเว็บใช้ยาก

หากเว็บไซต์ใช้งานยาก เช่นคลิกเข้าถึงหน้าที่ต้องการยาก ผู้ชมเว็บไม่รู้ว่าต้องกดตรงไหนเพื่อไปยังเป้าหมาย แน่นอนครับว่าส่วนใหญ่แล้วผู้ชมกดปิด

ยกตัวอย่างเช่น คุณขายสินค้าออนไลน์ แต่ต้องคลิกลิ้งค์นี้ แล้วไปลิ้งค์นั้นอีก แล้วต้องคลิกลิ้งค์นั้นอีก กว่าจะซื้อได้ ผู้ชมจำนวนมาก ถึงแม้เขาจะสนใจสินค้า เขาก็กดปิดทิ้งครับ การออกแบบเว็บไซต์ใหม่หรือการปรับปรุงเว็บไซต์ จะช่วยทำให้ Process หรือ User flow ง่ายขึ้นครับ

ใช้งานบนมือถือไม่ได้ หรือเรียกว่า ไม่ Responsive

ด้วยความที่ยุคนี้ผู้ชมใช้อินเตอร์เน็ทหรือท่องเว็บในมือถือมากกว่าในคอมพิวเตอร์ ถ้าเว็บไซต์ของคุณมีหน้าตาเดียวกับในมือถือ (มักจะพบในเว็บยุคเก่า) ที่ต้องใช้ผู้ชมทำเมาส์ซูมเพื่ออ่านเนื้อหา จะทำให้ผู้ชมกดปิดหรือหาเว็บไซต์อื่นแทนได้ครับ ในการปรับปรุงเว็บไซต์ การแสดงผลในมือถือควรจะเป็น Priority #1 ครับ ต้องเน้นให้ใช้งานง่าย แสดงผลได้ดีในทุกรุ่นมือถือและแท็บเล็ตครับ

ไม่สร้าง Conversion

Conversion แปลง่าย ๆ คือการแปลงผู้ชมให้เป็นลูกค้า หรือการแปลงผู้ชมให้ทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ครับ

เช่นผมทำหน้าเว็บขึ้นมา ผมอยากให้กลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาในเว็บไซต์เข้ามาและคลิกแอดไลน์

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการทำเว็บขายสินค้าออนไลน์ ในการออกแบบ Process การสั่งซื้อ จะต้องทำให้ต้องเคลียร์ ต้องชัดเจน และต้องง่าย เพื่อให้ผู้ชมที่สนใจที่เข้ามาในเว็บไซต์ รู้ว่าต้องกดตรงไหนถึงจะสั่งซื้อได้ และถ้าทุกอย่างมันง่าย ขั้นตอนในฝั่งผู้ชมจะน้อย และผู้ชมคนนั้น ๆ จะมีโอกาสเป็น Conversion ในเว็บมากขึ้นครับ เจ้าของเว็บอาจได้คน ๆ นั้นเป็นลูกค้าครับ

ในกรณีที่เว็บไซต์เก่า หรือวาง layout โครงสร้างไม่ดี หรือไม่วางตาม flow ที่ตั้งใจไว้ อาจทำให้ลูกค้าที่สนใจกดปิดหน้าเว็บได้ เพราะหาสิ่งที่ต้องการไม่เจอครับ ปัญหานี้แก้ได้โดยการปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ โดยที่เน้นเป้าหมายของหน้าเว็บหรือ flow ที่เจ้าของเว็บต้องการทำครับ

แต่ในหัวข้อนี้ไม่ใช่ทำครั้งเดียวและจบครับ หลังจากที่ปล่อยเว็บไซต์เวอร์ชั่นที่ปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว ทางผู้ดูแลเว็บไซต์หากติดเครื่องมือ Analytics เช่น Hotjar, Google Analytics ทางผู้ดูแลเว็บไซต์จะรู้ว่ามี Conversion Rate เท่าไหร่ ลูกค้าคลิกเข้าไปสุดที่หน้าไหน ใครเป็นกลุ่มเป้าหมายบ้าง โดยที่สถิติพวกนี้จะช่วยในการออกแบบ Flow เว็บไซต์ได้ละเอียดขึ้นในอนาคตครับ

ยกตัวอย่างเช่น ในเว็บขายของออนไลน์ มี 2 ทางเลือกให้จ่ายเงิน โดยมีการจ่ายผ่านโอนเงินและอัพโหลดสลิปก่อน แสดงอยู่ด้านบน และจ่ายผ่านบัตรเครดิตอยู่ด้านล่าง แต่ลูกค้าเลือกคลิกจ่ายบัตรเครดิตมากกว่า หากปรับปรุงเว็บไซต์ง่าย ๆ โดยการสลับที่กัน ให้บัตรเครดิตอยู่บน อาจเป็นทางเลือกที่ดีและอำนวยความสะดวกมากกว่าครับ

อันดับ SEO ไม่ดี

หากอันดับที่แสดงใน Search Engine เช่น Google ไม่ดี อาจทำให้ผู้ชมหาเว็บไซต์คุณจากการค้นหาได้ยากขึ้นครับ โดยมีหลายปัจจัยมาก เช่นไม่มีเนื้อหาที่มีคุณภาพ ไม่ได้เน้น Keyword สำคัญ ๆ ในเนื้อหา เว็บไซต์โหลดช้า หรือโครงสร้างทางเทคนิคไม่ดี เป็นต้น หากแก้ปัญหาเว็บไซต์พวกนี้ได้ Google หรือ Search Engine อื่น ๆ อาจปรับเว็บให้ดีกว่าคู่แข่งได้ และทำให้ผู้ชมเห็นเว็บมากขึ้นครับ

Branding

หากเว็บไซต์ถูกออกแบบมาโดยไปคนละทางกับแบรนด์หรือสินค้าจริง ๆ อาจทำให้ผู้ชมสงสัยได้ครับว่า นี่มันแบรนด์เดียวกันหรือเปล่า และส่งผลอย่างมากต่อความน่าเชื่อถือครับ ยกตัวอย่างเช่น หาก Apple ดีไซน์เว็บไซต์ของเขาเหมือนเว็บราชการ ผู้ที่เข้าไปในเว็บเพื่อจะดูราคาของ อาจสงสัยว่านี่มันแบรนด์ Apple จริง ๆ หรือเปล่า ครับ

โดยในจุดนี้ ผู้ดูแลเว็บจะต้องไล่กลับไปดูว่าในองค์กรหรือในแบรนด์ มีทรัพยากรอะไรให้ใช้บ้าง เช่นมี CI (Corporate Identity) ไหม ใช้ฟอนต์อะไร ใช้เพลตสีอะไร เน้นแสดงอะไร เป็นต้น และสามารถใช้ข้อมูลพวกนั้นในการปรับปรุงเว็บได้ครับ

โดยสรุปก็คือ การปรับปรุงเว็บไซต์เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการปรับแก้ไขเว็บไซต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้ดึงลูกค้าให้มากที่สุด ให้เข้าถึงผู้ชมให้ได้มากที่สุด ให้น่าเชื่อถือที่สุดครับ โดยเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อให้เว็บไซต์ทำประโยชน์ให้ได้ในโลกออนไลน์ครับ

Make2Web ก็มีบริการปรับปรุงเว็บไซต์เช่นกันครับ สามารถคลิกดูรายละเอียดบริการได้เลยครับ

• Facebook
• Twitter
• Copy