ในธุรกิจออนไลน์ เว็บไซต์เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเข้าถึงลูกค้า กลุ่มเป้าหมาย และแสดงแบรนด์ในโลกออนไลน์ครับ แต่ถ้าหากว่าเว็บไซต์บริษัท เว็บไซต์แบรนด์หรือเว็บไซต์องค์กรที่มีนั้นเก่าแล้ว หรือไม่สามารถใช้งานตามเป้าหมายที่ต้องการได้ ก็อาจเป็นเวลาที่ควรปรับปรุงเว็บไซต์แล้วครับ

เพราะโลกหมุนไปครับ ยิ่งดำเนินธุรกิจไปเท่าไหร่ ยิ่งมีข้อมูล ยิ่งพัฒนา ยิ่งเห็นปัญหามากขึ้นเท่านั้น เว็บไซต์ก็เป็นอย่างหนึ่งที่ไม่ควรหยุดนิ่งครับ ในบทความนี้ ผมจะอธิบายความสำคัญของการปรับปรุงเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์บริษัทหรือเว็บไซต์ขายของออนไลน์ครับ โดยสามารถใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์เอง และจ้างทำเว็บไซต์หรือจ้างปรับปรุงเว็บไซต์นะครับ

ผมให้บริการปรับปรุงเว็บไซต์ มาตั้งแต่ปี 2016 แล้วครับ โดยในบทความนี้เป็นสิ่งที่ผมได้เก็บรวบรวมข้อมูลมาจากการปรับปรุงเว็บไซต์มาแล้วหลายร้อยเว็บครับผม
เมื่อไหร่ดี ที่ควร "ปรับปรุงเว็บไซต์" [อัพเดท 2025]
Da Chakrapan

1. การออกแบบเว็บไซต์ เก่า

เว็บไซต์เก่า ที่ควรได้รับการปรับปรุงเว็บไซต์
เว็บไซต์ที่ทำในช่วงปี 2010 มักหน้าตาจะออกมาแบบนี้ครับ

หากเว็บไซต์มีดีไซน์ที่เก่า หรือดีไซน์เดิมใช้งานมานานจนเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว เว็บปัจจุบันยังดูเก่าและไม่ทันสมัย ปัญหานี้ทำให้ผู้ที่เข้าชมมองว่าธุรกิจของคุณหรือแบรนด์ของคุณนั้นไม่ตามยุคสมัย และในการใช้งานครับ

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณยังใช้เว็บไซต์ที่ดีไซน์เมื่อประมาณ 10 ปีก่อนอยู่ อาจมีส่วนของเว็บที่ยังเป็น Adobe Flash (ทันไหมครับ ถ้าทันแสดงว่า อายุไม่น้อยแล้วนะ 😂) หรือยังมีดีไซน์ที่กระจัดกระจายไม่เป็นสัดส่วน อาจไม่สามารถนำมาใช้เพื่อเข้าถึงลูกค้าในยุคปัจจุบันได้ การปรับปรุงเว็บไซต์สามารถแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้ เพื่อให้เว็บไซต์ดูทันสมัยและสวยงามยิ่งขึ้นได้ครับ

2. เว็บใช้งานยาก มี UX ไม่ดี

ตัวอย่างการวาง UX/UI ที่ดี และไม่ดี
ตัวอย่างการวาง UX/UI ที่ดี และไม่ดี

หนึ่งในสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าเว็บไซต์ควรได้รับการปรับปรุง คือเมื่อผู้ใช้งานเข้าเว็บแล้ว “สับสน” ครับ

กล่าวคือ หากเว็บไซต์ใช้งานยาก เช่นคลิกเข้าถึงหน้าที่ต้องการยาก ผู้ชมเว็บไม่รู้ว่าต้องกดตรงไหนเพื่อไปยังเป้าหมาย หรือจะซื้อของแล้วอะไรอยู่ไหนก็ไม่รู้ แน่นอนครับว่าส่วนใหญ่แล้วผู้ชม ถ้าเขาไม่ได้สนใจจริง ๆ เขากดปิดเว็บทิ้งไปเลย แล้วปิดทิ้งคืออะไรครับ = ผู้ชมหาย = ลูกค้าจะหาย

ตรงนี้แหละครับ ที่เรียกกันว่า UX หรือเรียกเต็ม ๆ ว่า User Experience แปลว่า “ประสบการณ์ผู้ใช้” ครับ

ผมมีเคสนึงที่ยกตัวอย่างได้ครับ

มีหลายครั้งครับที่ผมเจอเคสที่ลูกค้ามีทำเว็บไซต์ E-Commerce (เว็บขายของออนไลน์) พร้อมระบบในตัวเอง และขายใน Platform อื่น ๆ ด้วยเช่นค่ายส้ม หรือค่ายม่วงที่เรารู้จักกันดี แต่ลูกค้ามักจะบ่นว่าเว็บขายของที่ทางแบรนด์เปิดเองนั้นใช้งานยาก จะซื้อก็ไม่รู้ต้องไปทางไหน จะหาอะไรก็ไม่เจอ เว็บโหลดช้าอีก ลูกค้าก็เลยไปซื้อใน Platform นอก แล้วเจ้าของแบรนด์ก็โดนค่าธรรมเนียมที่แต่ละค่ายนั้นจัดเก็บในแต่ละ Order ไปครับ

ซึ่งในเคสนี้ก็จะขัดกับจุดประสงค์ที่เขาต้องการทำเว็บขายของออนไลน์ของเขาครับครับ เขาทำเว็บเพื่อเป็นช่องทางที่เขาแบ่งช่องทางการชำระเงิน ให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้เหมือนกัน และบวกกับการที่ไม่โดนค่าธรรมเนียมตรง ๆ กับการไปอยู่ในแพล็ตฟอร์มพวกนั้นอย่างเดียวครับ

หรือผมยกตัวอย่างอีกว่าทำไม UX ถึงสำคัญ นั่นคือแอพธนาคารครับ

ตัวอย่างนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เว็บไซต์ แต่ UX ที่แย่ก็ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ในระดับนึงเลยครับ ถ้าแบรนด์นั้นผูกชีวิตส่วนนึงไว้กับกับฐานผู้ใช้ที่ใช้แอพนั้นเป็นประจำ

  • ธนาคารนึงออกแบบส่วนนี้ดีมาก ๆ ผู้ใช้จึงทำธุรกรรมในบริบทที่เร่งรีบได้ เช่นต่อแถวซื้อชาเขียวอยู่ แล้วแถวยาวมาก ต้องรีบเปิดแอพจ่ายเงิน สแกน QR Code และกดจ่าย ทั้งหมดจบภายในไม่กี่วินาที หรือกดเงินสดจากตู้ ATM อยู่แล้วแถวยาวมาก แต่แอพออกแบบมาให้สร้างรายการถอน และสแกน QR Code ที่ตู้ได้ทันที
  • อีกธนาคารนึงออกแบบมาให้สำหรับคนที่รักการอ่าน ไปยืนอยู่หน้าตู้หรือหน้าร้าน อะไรอยู่ไหนก็ไม่รู้ ปุ่มที่จำเป็นก็ต้องเลื่อนหา หรือต้องยืนยัน 3-4 Step จนผู้ใช้งานนึงว่าทำเรื่องกู้บ้านอยู่ และมีเสียวสันหลังว่าคนข้างหลังจะเริ่มบ่นแล้วหรือเปล่า หรือคนข้างหลังจะเริ่มพูดว่า “คุณจะยืนกดเงินอยู่ตรงนี้อีกนานไหม” (ใครทัน หรือเก็ตไหมครับ)

การปรับปรุง UX (User Experience หรือประสบการณ์ผู้ใช้) ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของ “ความสวยงาม” แค่อย่างเดียว แต่ใจคอหลัก ๆ คือการทำเว็บไซต์ให้ “ผู้ใช้” ได้ “ใช้” เว็บไซต์ได้อย่างราบรื่น และตามจุดประสงค์ที่เจ้าของเว็บคาดหวังไว้ครับ เช่น ลดจำนวนขั้นตอนในการซื้อสินค้า ทำให้ปุ่มกดหรือเมนูมีความชัดเจน แสดงรายละเอียดสินค้าที่เข้าใจง่าย กระตุ้นให้คนรู้สึกสนใจ หรือทำเว็บให้โหลดเร็ว ฯลฯ เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ก็มีผลมากมายมหาศาลครับ แม้แต่เว็บใหญ่ ๆ ยอดขายวันนึงนับไม่ถ้วน ยังต้องมีแผนกที่ดูเรื่องของ UX โดยเฉพาะเลยครับ (บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เช่น Google, Apple, Microsoft, Amazon, และ Netflix ต่างก็มีทีมหรือแผนกที่ดูแลด้าน UX โดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งผู้เชี่ยวชาญด้าน UX Researcher, UX Designer, และ UX Writer ทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ)

การออกแบบเว็บไซต์ใหม่ หรือการปรับปรุงเว็บไซต์ที่คำนึงถึง UX ที่ดี จะช่วยให้ผู้ชมกลายเป็นลูกค้าได้ง่ายขึ้น และเพิ่มยอดขายในระยะยาวครับ

3. ใช้งานบนมือถือไม่ได้ (ไม่ Responsive)

ปัจจุบันกว่า 70% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงเว็บไซต์ผ่านมือถือมากกว่าคอมพิวเตอร์ครับ หากเว็บไซต์ยังคงแสดงผลแบบเดิม ๆ ที่บังคับให้ผู้ใช้ต้องซูมเข้าออกเพื่ออ่านเนื้อหา หรือเลื่อนซ้ายขวาเพื่อดูข้อมูล ในยุคนี้ ในตลาดที่เว็บสมัยใหม่แทบทุกเว็บไซต์มีการทำ Layout เฉพาะสำหรับมือถือแล้ว ถ้าเว็บคุณไม่สำคัญในสายตาผู้ชมจริง ๆ ผู้ชมส่วนใหญ่มักจะกดปิดทันทีและหันไปหาเว็บไซต์คู่แข่งที่ใช้งานง่ายกว่าครับ

ในการทำเว็บยุคนี้ สืบเนื่องจากข้อ 1 และ 2 เราควรทำเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายที่สุดครับ ให้ลูกค้า Take Action เมื่อจำเป็นและเมื่อเขาสร้างการ “ตัดสินใจ” เท่านั้น เช่น ให้แต่เพื่อติดต่อ หรือกรอกฟอร์ม หรือทำการสั่งซื้อครับ นี่คือสิ่งที่เราต้องการให้เขาทำในเว็บไซต์ครับ

แต่ให้เขาซูมเว็บเข้าออกเพื่อหาเมนูที่เขาอยากเข้า อันนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราขอให้ผู้ใช้ทำนะครับ (แม้แต่เว็บราชการก็เถอะครับ ถือว่าผมขอ)

ดังนั้น การปรับปรุงเว็บไซต์ให้ Responsive Design หรือการออกแบบที่ปรับหน้าตาให้เหมาะสมกับทุกขนาดหน้าจอ จึงไม่ใช่แค่ “ควรทำ” แต่เป็น Priority อันดับ 1 ในปี 2025 เว็บไซต์ที่รองรับการใช้งานบนมือถือและแท็บเล็ตได้ดี จะช่วยให้ผู้เข้าชมเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเพิ่มโอกาสเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นลูกค้าได้มากขึ้นครับ

4. ไม่สร้างยอดขาย ไม่มี Conversion

เมื่อไหร่ดี ที่ควร "ปรับปรุงเว็บไซต์" [อัพเดท 2025]

Conversion คือการเปลี่ยนผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้กลายมาเป็นลูกค้า หรือทำตามเป้าหมายที่เจ้าของเว็บตั้งไว้ครับ ไม่ว่าจะเป็น

  • คลิกแอดไลน์
  • สมัครสมาชิก
  • สั่งซื้อสินค้า
  • กรอกฟอร์มสนใจสินค้า ให้ Sale ติดต่อกลับเป็นต้น

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการทำเว็บขายสินค้าออนไลน์ ในการออกแบบ Process การสั่งซื้อ จะต้องทำให้ต้องเคลียร์ ต้องชัดเจน และต้องง่าย เพื่อให้ผู้ชมที่สนใจที่เข้ามาในเว็บไซต์ รู้ว่าต้องกดตรงไหนถึงจะสั่งซื้อได้ และถ้าทุกอย่างมันง่าย ขั้นตอนในฝั่งผู้ชมจะน้อย และผู้ชมคนนั้น ๆ จะมีโอกาสเป็น Conversion ในเว็บมากขึ้นครับ เจ้าของเว็บอาจได้คน ๆ นั้นเป็นลูกค้าครับ

การปรับปรุงเว็บไซต์ โดยคำนึงถึง User Flow คำนึงถึงกลุ่มลูกค้า พฤติกรรมลูกค้า และเป้าหมายที่ชัดเจน จะช่วยทำให้ผู้ชมเข้าใจง่ายขึ้นว่าต้องทำอะไรต่อไปครับ โดยการทำก็เริ่มตั้งแต่การนำเว็บไซต์เก่ามาชำแหละดูว่าแต่ละส่วน ใช้ได้หรือไม่ได้อย่างไร และนำข้อมูลที่มี เช่นกลุ่มลูกค้า พฤติกรรมลูกค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะ Pain point เว็บปัจจุบันมาวิเคราะห์ ยิ่งมีเยอะและละเอียดจะทำให้การวางแผนปรับปรุงเว็บไซต์ประสบผลสำเร็จมากขึ้นครับ และจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ๆ

แม้แต่คุณจะบอกว่า… เว็บปัจจุบันเป็นเว็บโปรไฟล์บริษัทเฉย ๆ ไม่ได้หวังว่าจะปิดการขายในเว็บ หรือหวังผลกับเว็บใด ๆ

แต่ในความจริงแล้ว เว็บไซต์ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นเว็บขายของ เว็บบริการ หรือแม้กระทั่งเว็บโปรไฟล์บริษัท ล้วนควรมี “เป้าหมายบางอย่าง” ที่อยากให้ผู้เข้าชมทำ เช่น กดปุ่มติดต่อเรา ดาวน์โหลดเอกสารบริษัท หรืออย่างน้อยที่สุดคือทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกว่าแบรนด์ของคุณน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพครับ

ดังนั้นแม้จะไม่หวังเรื่องยอดขายตรง ๆ เว็บไซต์ที่ดีและได้รับการ ปรับปรุงเว็บไซต์ อย่างเหมาะสม ก็ยังสามารถสร้าง Conversion ในรูปแบบของ “ความน่าเชื่อถือ” และ “ความมั่นใจในแบรนด์” ได้เช่นกันครับ

แต่การปรับปรุงเว็บไซต์ไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วจบ หลังจากเว็บไซต์ใหม่ออนไลน์แล้ว ควรติดตั้งเครื่องมือวิเคราะห์อย่าง Google Analytics หรือ Microsoft Clarity เพื่อเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้งาน เช่น ลูกค้าส่วนใหญ่หยุดอยู่ที่หน้าไหน คลิกปุ่มอะไร หรือใช้เวลาเท่าไรในการตัดสินใจซื้อ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการปรับปรุงเว็บไซต์ครั้งต่อไปให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ

เครื่องมือเช่น Microsoft Clarity คือเครื่องมือที่เอาไว้วัดการใช้งานของผู้ชม และสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้เป็นอย่างดี
เครื่องมือเช่น Microsoft Clarity คือเครื่องมือที่เอาไว้วัดการใช้งานของผู้ชม และสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้เป็นอย่างดี


ยกตัวอย่างเช่น ในเว็บขายของออนไลน์ มี 2 ทางเลือกให้จ่ายเงิน โดยมีการจ่ายผ่านโอนเงินและอัพโหลดสลิปก่อน แสดงอยู่ด้านบน และจ่ายผ่านบัตรเครดิตอยู่ด้านล่าง แต่ลูกค้าเลือกคลิกจ่ายบัตรเครดิตมากกว่า หากปรับปรุงเว็บไซต์ง่าย ๆ โดยการสลับที่กัน ให้บัตรเครดิตอยู่บน อาจเป็นทางเลือกที่ดีและอำนวยความสะดวกมากกว่าครับ

หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญ รับปรับปรุงเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่ง รับทำเว็บไซต์ ใหม่ การเลือกทีมงานที่เข้าใจว่าเว็บไซต์ของคุณ และธุรกิจของคุณจะทำอะไร และมี Empathy กับสิ่งที่คุณกำลังจะทำและคาดหวังให้คุณสำเร็จจริง ๆ จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้รวดเร็วขึ้นครับ

5. อันดับ SEO ไม่ดี

เมื่อไหร่ดี ที่ควร "ปรับปรุงเว็บไซต์" [อัพเดท 2025]

หากเว็บไซต์ของคุณติดอันดับการค้นหาใน Search Engine เช่น Google ไม่ดี โอกาสที่ลูกค้าจะเจอเว็บไซต์แบบไม่ต้องยิง Ads ก็ย่อมน้อยลงไปด้วยครับ ปัญหานี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • ไม่มีเนื้อหาที่มีคุณภาพ หรือเอา AI เขียนชนิดที่มนุษย์อ่านไม่รู้เรื่อง
  • ไม่ได้ใส่คีย์เวิร์ดสำคัญลงไปในบทความ
  • ความเร็วในการโหลดช้า
  • หรือแม้กระทั่งโครงสร้างเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม (เช่น จัดหมวดหมู่สินค้ามั่ว หน้าย่อยเยอะเกินไป เป็นต้น)

เมื่อปัญหาเหล่านี้สะสมกันก็ส่งผลให้ Google จัดอันดับเว็บไซต์คุณต่ำกว่าคู่แข่งโดยตรงครับ เพราะยุคนี้ Google ไม่ได้มานั่งสนว่าบทความคุณจะมี 2,500 คำเท่ากับเมื่อก่อนแล้ว มาตรฐานการจัดอันดับของ Google ก็เปลี่ยนไปโดยใช้ AI มาจัดอันดับครับ ดูว่าเว็บไหนน่าเชื่อถือ เป็นมิตรกับมนุษย์ มีประโยชน์ต่อผู้ที่เข้าค้นหาครับ โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ Google นำ AI Overview มา Disrupt วงการ SEO ตรง ๆ

หากอยากอ่านเรื่อง SEO เพิ่มเติมว่ายุคนี้เป็นอย่างไร เนื้อหาหรือบทความเอา AI เขียนได้ไหม คลิกอ่านได้ที่บทความนี้เลยครับ 👉🏻 SEO คืออะไร วิธีทำเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรก Google

สรุปก็คือ การปรับปรุงเว็บไซต์ ให้สอดคล้องกับหลัก SEO จึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้าง On-Page, การทำ Technical SEO, หรือการพัฒนา Content ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย หากมีการรีดีไซน์หรือปรับปรุงเว็บไซต์อย่างถูกต้อง Search Engine จะมองว่าเว็บคุณมีคุณภาพและมีโอกาสเลื่อนอันดับให้สูงขึ้นครับ เมื่อเว็บไซต์ถูกค้นเจอง่ายขึ้น ธุรกิจก็มีโอกาสได้ลูกค้าใหม่มากขึ้นด้วยครับ

6. ไม่สะท้อน Branding

เมื่อไหร่ดี ที่ควร "ปรับปรุงเว็บไซต์" [อัพเดท 2025]

เว็บไซต์ที่ออกแบบไม่สอดคล้องกับแบรนด์หรือสินค้าจริง ๆ อาจทำให้ผู้เข้าชมเกิดความสงสัยและลดความน่าเชื่อถือทันที ตัวอย่างเช่น หากแบรนด์อย่าง Apple ที่มีภาพลักษณ์แบบที่คุณเข้าใจตอนนี้ ออกแบบเว็บไซต์เหมือนเว็บราชการ ผู้ชมอาจตั้งคำถามทันทีว่า “นี่คือเว็บของ Apple จริงหรือเปล่าเนี่ย” ความ “ขัด” กันนี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างมากครับ

ถ้าทีม Apple ทำเว็บแบบที่ไม่คำนึงถึงแบรนด์ตัวเอง
ถ้าทีม Apple ทำเว็บแบบที่ไม่คำนึงถึงแบรนด์ตัวเอง

เพื่อแก้ปัญหานี้ การ ปรับปรุงเว็บไซต์ ควรเริ่มจากการสำรวจทรัพยากรของแบรนด์ เช่น มี CI (Corporate Identity) ฟอนต์ที่ใช้ สีหลักของแบรนด์ หรือสไตล์การสื่อสารอย่างไร จากนั้นนำองค์ประกอบเหล่านี้มาปรับใช้ในการออกแบบเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับแบรนด์อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นภาพประกอบ สีสัน การจัดวางเนื้อหา หรือแม้แต่โทนของข้อความ มีผลกับภาพลักษณ์ที่นำเสนอผ่านเว็บไซต์ทั้งหมดครับ

การทำให้เว็บไซต์สอดคล้องกับแบรนด์ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้เข้าชมจดจำแบรนด์และกลับมาใช้บริการอีกครั้ง หากคุณกำลังมองหาทีมงานที่เข้าใจทั้งด้านดีไซน์และแบรนด์ สามารถเลือกผู้เชี่ยวชาญที่ รับปรับปรุงเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่ง รับทำเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บใหม่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์

โดยสรุปก็คือ การปรับปรุงเว็บไซต์เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการปรับแก้ไขเว็บไซต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้ดึงลูกค้าให้มากที่สุด ให้เข้าถึงผู้ชมให้ได้มากที่สุด ให้น่าเชื่อถือที่สุดครับ โดยเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อให้เว็บไซต์ทำประโยชน์ให้ได้ในโลกออนไลน์ครับ

เท่าที่อ่านมา เว็บไซต์ของคุณถึงเวลาควรปรับปรุงแล้วหรือยัง?

ถ้าเว็บไซต์ของคุณมีมากกว่า 1 หรือ 2 ข้อ ก็ถึงเวลาที่จะปรับปรุงเว็บไซต์แล้วครับ

ทีนี้ การทำเว็บไซต์ หรือการปรับปรุงเว็บไซต์ จะเริ่มยังไงดี ต้องปรับปรุงอะไรบ้าง มีอะไรที่ควรรู้ก่อนที่จะพาเว็บไซต์ติดจรวด คลิกอ่านบทความนี้ได้เลยครับ 👉🏻 แชร์ขั้นตอนง่ายๆ “แก้ไขปรับปรุงเว็บไซต์” ยังไง ให้โดนใจลูกค้า

Make2Web ก็มีบริการปรับปรุงเว็บไซต์เช่นกันครับ สามารถคลิกดูรายละเอียดบริการได้เลยครับ

👋จ้างแก้ไขเว็บไซต์ จ้างปรับปรุงเว็บไซต์ ที่ไหนดี คุณมาถูกที่แล้วครับ!

รับปรับปรุงเว็บไซต์ แก้ไขเว็บไซต์ โดยมืออาชีพ

รับปรับปรุงเว็บไซต์ แก้ปัญหาเว็บไซต์ แก้ไขเว็บไซต์ ทั้งแก้ไขเล็กน้อย ตกแต่งเว็บที่มีอยู่แล้วด้วยเนื้อหาเดิม ออกแบบเว็บไซต์ใหม่ เพื่อให้ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพ และตอบโจทย์มากขึ้น