วิธีแก้ Connection Timed Out / การเชื่อมต่อหมดเวลา ใน WordPress [Update 2025]

สาเหตุ Connection Timed Out / การเชื่อมต่อหมดเวลา

Connection Timed Out หลัก ๆ เกิดจากการที่ client (เช่น web browser) ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้ครับ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

• ปัญหาที่อินเตอร์เน็ทของผู้ใช้งานมีปัญหา (โดน block หรือมีปัญหาอื่น ๆ)
• ปัญหาที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ (เช่น เว็บดับ เป็นต้น)
• ปัญหาที่เครือข่าย
• ปัญหาของปลั๊กอิน / ธีมบางตัวในเว็บไซต์ หรือแม้แต่ Core wordpress เอง

เมื่อมีปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น ส่วนใหญ่จะขึ้นข้อความว่า “Connection Timed Out” หรือ “Error Connecting to Server” หรือ “www. ____ .com took too long to respond” “This site can’t be reached” เป็นต้นครับ

วิธีแก้ Connection Timed Out / การเชื่อมต่อหมดเวลา

ปัญหานี้ต้องค่อย ๆ เช็คครับว่าเกิดจากอะไรครับ ลองดูเป็นข้อ ๆ ได้ครับ

1. เช็คอินเตอร์เน็ท: เช็คว่าการเชื่อมต่อนั้นเสถียรหรือเปล่า เช็คว่าเว็บอื่นเข้าได้ไหม หากเข้าได้ เป็นไปได้ว่าเซิร์ฟเวอร์ของเว็บที่จะเข้ากำลังบล็อกไม่ให้เข้าอยู่ครับ
   • หากสงสัยว่าโดนบล็อก ให้ลองเปลี่ยน Wifi หรือหากอยู่ใน Smartphone ให้ลองเช็คว่าเน็ต Wifi และเน็ต Data เข้าได้เหมือนกันไหม หาก wifi เข้าไม่ได้ และ Data เข้าได้ (หรือกลับกัน) แสดงว่า IP ที่ใช้อยู่อาจโดนเซิร์ฟเวอร์บล็อกได้ครับ
2. เช็คเซิร์ฟเวอร์ว่าใช้งานได้อยู่หรือเปล่า หรือกำลังบล็อกอยู่หรือเปล่า: เช่นเดียวกับข้อ 1) หากสงสัยว่าเซิร์ฟเวอร์กำลังบล็อก IP ของคุณไม่ให้เข้า หรือเข้าไม่ได้เพราะสาเหตุอื่น ให้ติดต่อโฮสติ้งให้ตรวจสอบและแก้ไขให้ครับ
3. Restart เครื่อง Router: ลองปิดเปิด Router ใหม่ครับ อาจทำให้ปัญหานี้แก้ไขได้
4. เช็คเว็บไซต์: หากมีการแก้ไขเว็บไซต์ใดๆ หรือแก้โค้ด หรือใน WordPress หากลง plugin/theme หรืออัพเดทอะไรเพิ่มเติมแล้วเป็น ให้ลองตรวจสอบโดยใช้วิธีเดียวกับ 500/503 Error ก็ได้ครับ อาจแก้ปัญหาได้ โดยทำตามบทความที่ผมเคยเขียนไว้ คลิกที่นี่ครับ

วิธีป้องกัน Connection Timed Out / การเชื่อมต่อหมดเวลา

• หากปัญหาอยู่ที่ Internet/Router: ให้ลองโทรตรวจสอบกับผู้ให้บริการดูครับ
• หากปัญหาอยู่ที่การตั้งค่า Server: ให้ลองคุยกับผู้ให้บริการดูครับว่าปัญหาเกิดจากอะไร และแก้ไขได้ไหมครับ หากไม่ได้และเป็นปัญหาบ่อย ผมแนะนำให้ย้ายโฮสติ้งออกครับ
• ใช้ CDN เช่น Cloudflare: การใช้ Content Delivery Network (CDN) กับเว็บไซต์สามารถช่วยลดการส่งข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ได้เป็นอย่างดีครับ
• ใช้ Plugin/Theme และ Core WordPress ที่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด: เพื่อให้ระบบทันสมัยและพวก Bug, error และช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่มีจะถูกแก้ไขทั้งหมด
• ปรับขนาดภาพให้ไซส์เล็ก :(เป็นไปได้ต่อ 1 ภาพไม่ควรเกิน 100kb) เพื่อให้รูปโหลดได้เร็วขึ้นและไม่หนักเว็บ
• ใช้ปลั๊กอินแคช เช่น WP Rocket, SWIFT Perfomance, W3 Total Cache และ Object Cache Pro/Redis เพื่อทำให้เว็บเร็วขึ้นและลด Load ใน Server
• ใช้โฮสติ้งที่มีคุณภาพ: ที่รองรับโหลดหนัก ๆ ที่เว็บไซต์ทีและแบ็คอัพสม่ำเสมอ

แต่ถ้าลองแก้ไขแล้วยังไม่หายอีก… มาหาเราได้เลยครับ MAKE2WEB ยินดีให้บริการ แก้ปัญหาเว็บไซต์