ผมรับงานออกแบบเว็บไซต์มาหลักร้อยเว็บไซต์ได้แล้วครับ สิ่งนึงที่ผมได้รับบรีฟเหมือนๆ กันจากลูกค้าหลายๆ เจ้าคือ “อยากได้เว็บง่าย ๆ ไม่รก” ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องในการออกแบบเว็บไซต์ครับ
ไม่ว่าคุณอยากจะทำเว็บไซต์บริษัท ขายของออนไลน์ หรือเว็บแนวไหนก็ตาม ความง่ายของผู้ใช้งาน และการออกแบบเว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาอย่างมืออาชีพ คือสิ่งที่จะทำให้เว็บคุณเติบโตครับ โดยผมมีเทคนิคดังนี้
ตั้งจุดประสงค์ในการทำเว็บไซต์บริษัท

ถ้าคุณอยากให้เว็บไซต์บริษัทของคุณเป็นมากกว่าแค่โบรชัวร์ หรือเว็บโปรไฟล์นิ่ง ๆ คุณสามารถเริ่มจากการตั้งจุดประสงค์ 1 ข้อ ก่อนได้ กล่าวคือ คุณอยากให้ผู้ชมเข้ามาเว็บไซต์ทำไม เช่น
- อยากให้มาเพื่อกรอกฟอร์มสนใจสินค้า
- อยากให้มาเพื่อเก็บ Lead อยากให้เข้ามาเพื่อแอดไลน์มาคุยต่อ
- อยากสร้างยอดขายโดยตรง
โดยทุก ๆ ส่วนของดีไซน์ในหน้าเว็บตั้งแต่ส่วนหัวจรดท้าย (Header/Footer) สามารถปรับเพื่อสร้างจุดประสงค์ได้ครับ
ยิ่งหากบริษัทมีข้อมูลเช่น Customer Persona ที่เข้าใจลูกค้าแล้ว สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับใช้กับการทำเว็บไซต์บริษัทได้เลยครับ
ง่าย ๆ แต่ชัดเจน

การทำเว็บแบบ Less-is-More หรือทำน้อยให้ได้มาก คือแนวทางการทำงานที่ควรนำมาปรับใช้ในการทำเว็บที่สุดครับ กล่าวคือ อยากเพิ่ม 1 Section ในเว็บไซต์ หรือเพิ่มรูป ให้ใช้เวลาในการเลือกรูป เขียนเนื้อหาให้ชัดเจน ปรับเนื้อหาให้ผู้ชมเข้าเว็บแล้วอ่านไม่นาน ไม่ใช้ศัพท์ยากจนเกินความจำเป็น ถ้าไม่เกิน 3 วินาทีแล้วเข้าใจยิ่งดี (ผู้ชมไม่อ่านนะครับอย่าลืม ผู้ชมจะสแกนเอา) แล้วทำแบบนี้กับทุกส่วนในเว็บไซต์ จะช่วยสร้างเสริมให้เว็บไซต์น่าใช้ขึ้นครับ เพราะถ้าสิ่งเหล่านี้ดีแล้ว ผู้ใช้งานจะไม่รู้ตัวและจะไม่เอะใจระหว่างการเปิดเว็บครับ
ความต่อเนื่องของงานออกแบบเว็บไซต์

ความต่อเนื่องของดีไซน์ การทำเว็บไซต์บริษัท นอกจากความง่ายแล้ว การที่ทำให้ฟีลของเว็บไซต์ต่อเนื่องกันไม่ว่าจะไปหน้าไหนของเว็บไซต์เป็นเรื่องสำคัญครับ เพื่อให้แบรนดิ้งของบริษัทของคุณมีประสิทธิภาพที่สุด ไม่ว่าผู้ชมจะไปหน้าไหน ก็รู้สึกว่ายังเป็นหน้าเว็บของบริษัทอยู่ เป็นเรื่องที่สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ได้ดีมากครับ ถ้าดีไซน์หน้าบางหน้าหรือบาง Section ในหน้าเว็บต่างกันไป เช่นไม่ได้ใช้สีที่แบรนด์มีเลย หรือเปลี่ยนฟอนต์หรือการจัดวางหน้าเว็บจนจำไม่ได้ อาจทำให้ผู้ชมงงได้ครับ
ดีไซน์ควรจะสะท้อนตัวตน อัตลักษณ์ขององค์กร

หนึ่งในเทรนด์การทำเว็บไซต์บริษัทก็คือมันต้องดู เข้มๆ แข็งๆ จนบางทีการที่มันเข้มและแข็งเกินไปอาจทำให้เว็บดูทื่อ ๆ เกินไปได้ ซึ่งตามหลักการใช้งานจริง… มันก็เวิร์คนะครับ ถ้าจะใช้เว็บแค่เป็นโบรชัวร์
แต่ถ้าต้องการมากกว่านั้น เช่นต้องการยกระดับ Digital Presence ในโลกออนไลน์ให้ดูมืออาชีพมากขึ้น หรือต้องการขยายธุรกิจมาในฝั่งดิจิทัลได้มากขึ้น การทำ Branding ที่สะท้อนความเป็นธุรกิจหรือองค์กรจะเป็นสิ่งที่ยกระดับคุณได้มากครับ
Social Proof ทำให้รู้ว่ามีตัวตนจริง

หากธุรกิจของคุณมีลูกค้าที่รีวิวสินค้าหรือบริการของคุณ เอามาใส่ในเว็บไซต์เลยครับ การมีส่วนนี้จะทำให้คุณยกระดับความน่าเชื่อถือไปได้อย่างมากเลย ซึ่งในยุคนี้นอกจากรีวิวที่ขอโดยตรงจากลูกค้ามาใส่เว็บไซต์บริษัทแล้ว การใช้ Google Reviews หรือ Facebook Review ประกอบหน้าเว็บด้วย จะทำให้สินค้าและบริการบนเว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นมาก ๆ ครับ
การใส่ส่วนติดต่อ หรือ Call to Action

ไม่ว่าธุรกิจแบบไหนก็สามารถใส่ส่วนที่ให้ผู้ชมสร้างการกระทำบนเว็บไซต์ได้ครับ เช่นให้คลิก หรือให้กรอกฟอร์ม เป็นต้น ก็มีหลาย Use Case ที่ผมแนะนำได้ เช่น กดโทรหาเราเลย กด Add Line หรือ ร่วมงานกับเรา ก็จะทำให้เว็บเป็นมากกว่าเว็บนิ่ง ๆ ครับ
ที่สำคัญ Call to Action สามารถใช้ทำได้หมดทุกอย่าง จนถึงการวัดผลว่าคนคลิกมากแค่ไหน ผู้ชมกลุ่มไหนด้วยครับผม ถือเป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ ในการทำเว็บไซต์ครับ
ทำเว็บให้โหลดเร็ว

3 วิ ถ้าโหลดไม่เสร็จ = ผู้ชมปิดเว็บทิ้ง คำนี้ไม่เกินจริงครับ แม้แต่เว็บที่คุณใช้แค่เป็นโบรชัวร์นิ่ง ๆ
การที่ทำให้เว็บโหลดเร็วนั้นจะช่วยให้ผู้ใช้งานใช้เว็บได้อย่างราบรื่นครับ ถ้าทำเว็บขายของออนไลน์ยิ่งทำให้ผู้ชมกดซื้อได้เร็ว = ยอดขายเยอะขึ้น ถ้าทำเว็บบริษัททั่วไป ความเร็วที่ดีก็จะทำให้ผู้ชมไม่หัวเสียปิดเว็บทิ้งได้เช่นกันครับ ผมเคยมีเคสที่เว็บช้าแล้วไม่โหลดช่วงตอนนำเสนองาน… ผมกล้าพูดได้เลยครับว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเอาซะเลย
สรุป
การทำเว็บไซต์บริษัท ไม่ว่าจะใช้งานเพื่อจุดประสงค์แบบไหน การที่โฟกัสไปที่ความง่าย ความชัดเจน และการออกแบบเว็บไซต์ที่มีเอกลักษณ์สะท้อนความเป็นแบรนดิ้งของบริษัทคุณ ล้วนแล้วแต่จะสร้างความน่าเชื่อถือและให้คุณบรรลุจุดประสงค์การทำเว็บไซต์ของคุณครับ
บริการออกแบบและทำเว็บไซต์บริษัทด้วย WordPress โดย Make2Web สามารถคลิกดูรายละเอียดบริการได้เลยครับ
👋จ้างทำเว็บไซต์ ที่ไหนดี? ที่นี่เลย! รับทำเว็บไซต์ WordPress